ร่างกายของคนเราผอมไปก็ไม่ดี ยิ่งอ้วนมากก็ยิ่งไม่ดี นั่นหมายถึงการเป็นแหล่งรวมเอาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มาไว้ที่ตัว เช่นเดียวกันกับผู้ที่ร่างกายสมบูรณ์ ไม่อ้วน ไม่ผอม หรือรวมๆ แล้วดูดี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสุขภาพดีเสมอไป เพราะจากประสบการณ์ที่เคยพบมา คนที่มีสุขภาพ(เหมือนจะ)แข็งแรงนี่แหละ ที่ต้องกลายเป็นผู้ป่วย ‘โรคเบาหวาน’ ไปซะได้ ใช้เวลารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเดือนๆ หรือว่าเรากำลังเข้าใจโรคเบาหวานผิดไปอยู่นะ !? เอาอย่างนี้ เพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างขึ้น เราก็มีข้อมูลที่น่าสนใจที่คนมักเข้าใจผิดมาฝาก ดูซิว่าจะเรื่องไหนกันบ้าง
เรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยว ‘โรคเบาหวาน’
1. ผัก ผลไม้ กินไปเถอะ เพราะยังไงก็ไม่อ้วน
เป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนน่าจะมีความเข้าใจใกล้เคียงกัน ถึงแม้จะรู้กันดีว่าบรรดาผัก ผลไม้นั้นเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยเกลือแร่และเต็มไปด้วยวิตามินสำคัญที่ร่างกายต้องการ มีประโยชน์ต่อร่างกายสุดๆ แต่ก็ยังมีผักและผลไม้อีกหลายชนิดที่ไม่ได้มีเฉพาะเกลือแร่ แถมยังพ่วงมาพร้อมกับน้ำตาลและแป้งด้วย ซึ่งผลไม้เหล่านั้นที่ควรเลี่ยง ได้แก่ มะม่วงสุก , ทุเรียน , ลำไย , ขนุน , เงาะ , ลองกอง , ละมุด , ลางสาด , ทับทิม , องุ่น , กล้วย ไปจนถึงผลไม้อบแห้ง ตากแห้ง หรือผลไม้ที่ผ่านการแปรรูป
ส่วนผลไม้ที่น้ำตาลและแป้งน้อย สามารถกินได้ตามปกติ ได้แก่ ฟักทอง , แตงโม , ฝรั่ง , แก้วมังกร , ชมพู่ , แอปเปิ้ล , แคนตาลูป , สาลี่ , มะนาว , สตอเบอร์รี่ เป็นต้น
2. เบาหวานน่ะเป็นโรคของคนแก่
อย่านะ ! อย่าได้ชะล่าใจคิดว่าโรคเบาหวานจะเกิดขึ้นกับผู้ที่มีอายุมากๆ เท่านั้น ถึงแม้จะจริงอยู่ที่สัดส่วนของผู้ป่วยเบาหวานจะมีผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก แต่ก็มีอยู่เหมือนกันที่เด็กอายุ 10 ขวบ ป่วยเป็นโรคเบาหวาน บางรายถึงมีอาการหนัก เพราะคิดอยู่อย่างเดียวว่าจะกินอะไรก็ได้ กินเท่าไหร่ก็ได้ ไม่ระมัดระวังในเรื่องอาหารการกินอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารที่มีรสหวานมันเข้มข้น หาซื้อมากินได้อย่างสะดวก จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเด็กๆ ถึงมีความเสี่ยงที่ระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้นได้
3. มีแต่คนอ้วนเท่านั้นที่จะเป็นโรคเบาหวาน
จากความเข้าใจว่าการกินอาหารที่มีรสชาติหวานมากๆ จะทำให้อ้วน จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ความคิดที่ผิด เพราะในคนผอมก็มีสิทธิ์ที่จะป่วยเป็นโรคเบาหวานได้เช่นกัน แต่ความเสี่ยงนั้นมีน้อยกว่า ก็อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า คนที่มีรูปร่างดี สมบูรณ์ เหมือนจะเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่กลับป่วยเป็นโรคเบาหวานได้ ด้วยนิสัยที่ชอบดื่มน้ำอัดลม กินอะไรหวานๆ อยู่ตลอด ถึงแม้ร่างกายจะมีระบบเผาผลาญที่ดี แต่ค่าน้ำตาลที่อยู่ในเลือดกลับสูงขึ้นมาก ทำให้เป็นโรคเบาหวานขั้นรุนแรงเลยทีเดีย
4. แป้งและน้ำตาลที่เป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน
พูดกันตามตรงว่าแป้งและน้ำตาลเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานเท่านั้น แต่ ‘ไขมันอิ่มตัว’ ที่มีอยู่ในเนื้อสัตว์จำพวกเนื้อแดง อย่าง ควาย , แกะ , วัว หรือเนื้อสัตว์แปรรูป อาทิ โบโลน่า , เบคอน , แฮม , หมูกรอบ , ไส้กรอก ก็มีส่วนทำให้เราป่วยเป็นเบาหวานได้เช่นกัน เนื่องจากไขมันอิ่มตัวที่อยู่ในสัตว์ใหญ่จะเข้าไปยับยั้งไม่ให้ ‘อินซูลิน’ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดสามารถทำงานได้ตามปกติ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดได้ช้าลง ส่วนตับอ่อนก็ทำงานหนักขึ้นเพื่อผลิตอินซูลินให้มากขึ้น พอตับอ่อนทำงานหนักขึ้นก็จะเริ่มเสื่อมสภาพจนผลิตได้น้อย พอน้ำตาลในเลือดไม่ลด ก็ทำให้เราเป็นหวานได้ในที่สุด
5. โรคเบาหวานเป็นกรรมพันธ์ุ พ่อแม่เป็น ยังไงเราก็เป็น
จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องไปซะทั้งหมด หากครอบครัวไหนที่พ่อและแม่เป็นเบาหวาน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นไปด้วย 100% เพียงแต่มีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป หากเราดูแลสุขภาพของตัวเองให้ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หมั่นควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพียงเท่านี้ ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานก็ลดน้อยลงไปได้แล้วล่ะ