พบซากงูกินหางในวัดท่าเสา
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 วัดท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้พบซากงูเห่า 2 ตัว ที่มีลักษณะพิเศษคือ กินหางตัวเองทั้งคู่ ขณะช่วยกันปรับภูมิทัศน์ภายในวัด โดยงูทั้งสองตัวยังคงมีสภาพสมบูรณ์ ตัวหนึ่งเป็นงูเห่าสีดำ และอีกตัวเป็นสีขาวลายดำ สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านและผู้ที่พบเห็น เนื่องจากตามความเชื่อโบราณ งูกินหางถือเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง และความแคล้วคลาดปลอดภัย
ตั้งซากงูในตู้รับบริจาค คนแห่ขอพร
ภายหลังพบซากงู ทางวัดได้ตัดสินใจนำซากงูทั้งสองตัวใส่พานและจัดแสดงไว้ภายในตู้รับบริจาค เพื่อป้องกันความเสียหายจากการสัมผัสของผู้ที่มาดู โดยเงินที่ได้รับจากการบริจาคจะถูกนำไปใช้ในการสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่และบูรณะอุโบสถหลังเก่าของวัดท่าเสา อย่างไรก็ตาม พระครูปลัดสมพงษ์ สมจิตตฺโต เจ้าอาวาสวัด ได้ติดป้ายเตือนสติประชาชนว่า “มองให้เป็นของแปลก อย่ามงาย” เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงการมองเหตุการณ์นี้ในแง่วิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เพียงความเชื่ออย่างเดียว
ไขข้อสงสัย “งูกินหาง” ปรากฏการณ์ธรรมชาติ
พระครูปลัดเกริกฤทธิ์ กันตสีโล พระลูกวัดที่พบงูกินหาง อธิบายว่า การที่งูเห่ากินหางตัวเองอาจเกิดจากความเครียด หรือความผิดปกติทางร่างกายของงู ซึ่งทำให้มันกัดหางของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ความเชื่อโบราณมองว่านี่คือสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาที่วัดท่าเสาเพื่อกราบไหว้และขอพร หวังได้เลขเด็ดกลับไปเสี่ยงโชค
มาดูซากงูกินหางได้ที่วัดท่าเสา
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเดินทางไปชมซากงูกินหางที่ วัดท่าเสาได้ โดยวัดตั้งอยู่ใน ตำบลท่าเสา อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งสามารถเดินทางมาได้สะดวก มีผู้คนทยอยเข้ามาเยี่ยมชมและทำบุญอย่างต่อเนื่อง
เรื่องราวของซากงูกินหางนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่สนใจของชาวบ้านในพื้นที่ แต่ยังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อโบราณหรือมุมมองทางวิทยาศาสตร์ ก็คงต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนในการรับรู้และตีความเรื่องราวนี้