แอร์ประหยัดไฟ: คู่มือเลือกซื้อและใช้งาน

แอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดเครื่องหนึ่ง ส่งผลต่อค่าไฟที่พุ่งสูงปรี๊ด แล้วจะทำอย่างไรให้แอร์เย็นฉ่ำ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟ?

แอร์ประหยัดไฟ

แอร์ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับหลายๆ บ้าน แต่ด้วยสภาพอากาศร้อนอบอ้าวในประเทศไทย ทำให้แอร์กลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดเครื่องหนึ่ง ส่งผลต่อค่าไฟที่พุ่งสูงปรี๊ด

แล้วจะทำอย่างไรให้แอร์เย็นฉ่ำ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟ?

บทความนี้ขอแนะนำ “แอร์ประหยัดไฟ

แอร์ประหยัดไฟ คืออะไร?

แอร์ประหยัดไฟ คือ แอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ดาว ซึ่งหมายความว่า แอร์เครื่องนี้กินไฟน้อยกว่าแอร์ทั่วไป

ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการประหยัดไฟของแอร์:

  • เทคโนโลยี: แอร์ Inverter ประหยัดไฟกว่าแอร์ Non-Inverter
  • ขนาด BTU: เลือกขนาด BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง
  • ฉลากประหยัดไฟ: เลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ดาว
  • การติดตั้ง: ติดตั้งแอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม
  • การใช้งาน: ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งาน

วิธีเลือกซื้อแอร์ประหยัดไฟ:

  • เลือกแอร์ที่มีเทคโนโลยี Inverter
  • เลือกขนาด BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง
  • เลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ดาว
  • เปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติจากหลายๆ ยี่ห้อ

วิธีใช้งานแอร์ประหยัดไฟ:

  • ปรับอุณหภูมิแอร์ให้อยู่ที่ 25-26 องศาเซลเซียส
  • ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งาน
  • ตั้งเวลาปิดแอร์ล่วงหน้า
  • ใช้พัดลมช่วยระบายอากาศ
  • ล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศเป็นประจำ
  • ปิดม่านหรือติดตั้งฟิล์มกรองแสงเพื่อลดความร้อนจากภายนอก

ตัวอย่างแอร์ประหยัดไฟ:

  • แอร์ Daikin รุ่น FTKQ Series
  • แอร์ Carrier รุ่น XInverter Plus
  • แอร์ Toshiba รุ่น Super Daiseikai Inverter
  • แอร์ LG รุ่น Dual Inverter
  • แอร์ Samsung รุ่น WindFree

สรุป:

แอร์ประหยัดไฟ ช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟได้มาก เลือกซื้อแอร์ที่มีเทคโนโลยี Inverter ขนาด BTU เหมาะสม ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ดาว และใช้งานอย่างถูกต้อง

ลองนำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้ รับรองว่าค่าไฟของคุณจะลดลงอย่างแน่นอน